การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการของสังคมซับซ้อนและกำเนิดของรัฐแรกเริ่มในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในเขตลุ่มแม่น้ำมูลตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยใช้โครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดค้นจากแหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ในระหว่าง พ.ศ 2545-2550 มีลำดับพัฒนาการทางวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยหินใหม่ถึงยุคประวัติศาสตร์ตอนต้น ประมาณ 1,500-3,700 ปีมาแล้ว เป็นตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
การศึกษาประกอบด้วยการวิเคราะห์ไอโซโทปเสถียรของสตรอนเซียม คาร์บอน และออกซิเจน จากตัวอย่างเคลือบฟันของโครงกระดูก ควบคู่กับการวิเคราะห์ลักษณะที่วัดไม่ได้ (non-metric trait) หรือลักษณะความแปรปรวนของฟันตัดและฟันกราม และการวัดทางสัณฐานทางเรขาคณิต (geometric morphometric) ของกะโหลกศีรษะบน เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นการเคลื่อนย้ายของประชากร ระบบเครือญาติ อาหารและรูปแบบการดำรงชีพ การจัดระเบียบองค์กรทางสังคม รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ระบบนิเวศน์ และสภาพแวดล้อมในช่วงสมัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อพัฒนาการทางสังคม โดยนำเสนอผลการศึกษาในรูปบทความที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการต่าง ๆ จำนวน 4 บทความด้วยกัน คือ
1) Social organization in the Prehistoric Mun River Valley: The story from the isotopes at Ban Non Wat.
2) Mixed economies after the agriculture revolution in Southeast Asia?
3) Moving peoples, changing diets: Isotopic differences highlight migration and subsistence changes in the Upper Mun River Valley, Thailand.
4) Isotopes and osteology: Using the multi-disciplinary approach to establish population affinity at Ban Non Wat, Thailand.
สรุปโดยย่อ พบว่ามีการเคลื่อนย้ายของประชากรจากภายนอกเข้ามาที่แหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัดเฉพาะสมัยหินใหม่ โดยสัณฐานของกะโหลกศีรษะบนแตกต่างเล็กน้อยระหว่างกลุ่มที่ถูกฝังในท่านอนงอเข่ากับกลุ่มที่ถูกฝังในท่านอนหงายเหยียดยาว ไม่ปรากฏรูปแบบเฉพาะของระบบเครือญาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่แล้งขึ้นในสมัยสำริดเป็นสมัยเหล็กส่งผลให้กลุ่มประชากรปรับเปลี่ยนวิถีการยังชีพและประเภทของอาหาร และสุดท้ายการจัดระเบียบองค์กรทางสังคมมีแนวโน้มเป็นความสัมพันธ์แบบหลายมิติ (heterarchy) มากกว่าความสัมพันธ์แบบลำดับขั้น (hierarchy)