มานุษยวิทยากายภาพในประเทศไทย

รวบรวมข้อมูลด้านมานุษยวิทยากายภาพของคนในอดีต ที่นักมานุษยวิทยากายภาพ แพทย์ นักโบราณคดี รวมถึงนักวิชาการในสาขาที่เกี่ยวข้อง ได้ศึกษาวิเคราะห์โครงกระดูกมนุษย์ที่พบจากแหล่งโบราณคดีในประเทศไทย และตีพิมพ์เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ

แหล่งโบราณคดี : วัดโพธิ์ศรีใน, บ้านเชียง

รหัสข้อมูล : BC-PSN_2003_B23

รหัสข้อมูล
BC-PSN_2003_B23
หมายเลขหลุมฝังศพ
23
หมายเลขโครงกระดูก
23
หมายเลขตัวอย่าง
หลุมขุดค้น
วัดโพธิ์ศรีใน
แหล่งโบราณคดี
วัดโพธิ์ศรีใน, บ้านเชียง
ภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จังหวัด
อุดรธานี
ลุ่มน้ำ
สงคราม
โครงการ
โครงการวิจัยมานุษยวิทยากายภาพและโบราณคดีเชิงชีววิทยาในประเทศไทย
เพศ
Male
วัย/อายุ
Middle adult, 35-40 yrs.
สภาพโครงกระดูก

โครงกระดูกวางหงายเหยียดยาวตามแนวแกนทิศตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ พื้นที่ PSN1 กริด S4-6E12-14 ระดับชั้นดินสมมติ 120-170 (152-160) cm.dt.

สภาพกระดูกชำรุด พบลักษณะผิดปกติบริเวณด้านหลังของกระดูกต้นขาซ้ายเพราะมีร่องรอยยื่นของกระดูกผิดรูปสรีระ ส่วนต้นขาขวาพบรอยสับตัดที่กระดูก มีรูปแบบการฝังศพด้วยการทุบภาชนะดินเผาเขียนสีแดงบนพื้นนวลอย่างน้อยจำนวน 15 ใบทุบให้แตกแล้วโปรยหรือวางเรียงคลุมศพ พบร่วมกับชิ้นส่วนเครื่องมือเหล็กวางอยู่ด้านขวาของกะโหลกศีรษะ กำหนดอายุราวสมัยปลายของวัฒนธรรมบ้านเชียง

สภาพโครงกระดูกชำรุดมาก กระดูกแตกหักหาย ใช้ศึกษาได้ราวร้อยละ 20-25 กะโหลกศีรษะชำรุดมากพบเฉพาะส่วนหน้าผากและกระดูกขากรรไกรล่าง ส่วนกระดูกอื่นๆ ที่พบ คือ ส่วนปลายด้านที่เชื่อมต่อกับกระดูกลิ้นปี่ของกระดูกไหปลาร้าซ้าย กระดูกปลายแขนด้านนอกและด้านในซ้าย กระดูกต้นขาซ้ายและขวาซึ่งส่วนหัวกระดูกชำรุดแตกหัก กระดูกหน้าแข้งซ้ายและขวาที่ตรงส่วนหัวและปลายกระดูกชำรุดแตกหักเช่นกัน บางส่วนของกระดูกซี่โครงซ้าย บางส่วนของกระดูกข้อเท้า ฝ่าเท้า และกระดูกนิ้วเท้าขวา และกระดูกข้อเท้า talus ซ้าย

ร่องรอยผิดปกติบนกระดูก

1. กระดูกหน้าแข้งขวา ด้านไกลกลางและด้านหลังของปลายกระดูก พบรอยสับตัด (รอยของมีคม) กระจายอยู่ เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นกับกระดูกซึ่งอาจจะถูกรบกวนจากปัจจัยอื่นๆ (การขุดวางฝังหลุมฝังศพอื่นๆ) ภายหลังการเสียชีวิต

2. กระดูกต้นขาซ้าย ผิวหน้า ช่วงบนของกระดูกพบรอยสับตัดจากของมีคม ด้านหลังของก้านกระดูกต้นขาซ้ายและขวาตรงส่วนยึดต่อ ส่วนผ่าน หรือส่วนเชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อมัดต่างๆ นั้น พบรอยเกาะกล้ามเนื้อชัดเจน เป็นแอ่งลึก และเป็นสันกระดูก อย่างน้อยใน 3 ตำแหน่ง คือ (1) intertrochanteric crest สัมพันธ์กับกล้ามเนื้อ quadratus femoris (muscle) ช่วยยึดรั้งและหมุนส่วนหัวกระดูกทั้งนอกและในเบ้ากระดูกเชิงกราน (2) บริเวณ spiral line สัมพันธ์กับกล้ามเนื้อ pectineus (muscle) กล้ามเนื้อแบนช่วยในการยืดหยุ่นของเชิงกราน และ (3) ด้านหลังกลางกระดูก หรือ linea aspera สัมพันธ์กับกล้ามเนื้อ vastus จากกลางกระดูกต้นขาถึงกระดูกสะบ้า และหัวกระดูกหน้าแข้ง ใช้สำหรับการเหยียดปลายขา โดยเฉพาะส่วนกระดูกหน้าแข้งขวา บริเวณดังกล่าวมีกระดูกงอกออกผิดปกติมีความหนาโดยเฉลี่ยประมาณ 2 เซนติเมตร เป็นลักษณะของปุ่มกระดูกงอก (exostoses) และภาวะการขยายตัวของเซลล์กระดูกมากผิดปกติ (proliferative lesion) (Buyers 2005) สาเหตุเกิดได้ทั้งจากความผิดปกติหรือการอักเสบของกล้ามเนื้อ แรงแค้นจากการกระทำเบื้องต้น ก่อนจะขยายตัวและอักเสบต่อเนื่องปรากฎเป็นลักษณะดังกล่าวบนกระดูก


ผู้วิเคราะห์
กรกฎ บุญลพ และนฤพล หวังธงชัยเจริญ
สถาบัน
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
แหล่งที่มาข้อมูล
วันที่วิเคราะห์

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ